โควิดสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ลูกผสม ระหว่าง BA.2.10.1 และ BA.2.75 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์หลักคือ โควิดโอมิครอน BA.2
โดยผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งโตเกียวในประเทศญี่ปุ่นระบุว่า สายพันธุ์ XBB.1.16 สามารถแพร่กระจายได้มากกว่าสายพันธุ์ XBB.1 และ XBB.1.5 1.17-1.27 เท่า โดยระบุว่า โควิดสายพันธุ์นี้มีศักยภาพที่สามารถจะแพร่กระจายไปทั่วโลกได้ในอนาคตอันใกล้ และ " มีฤิทธิ์ต้านทาน " แอนติบอดีโควิด - 19 ที่มีในปัจจุบัน
โดย โควิดสายพันธุ์ " XBB.1.16 อาจเข้ามาแทนที่ทุกสายพันธุ์ " หัวหน้าศูนย์จีโนมฯ ม.มหิดล กล่าว
คุณสมบัติ - ติดเชื้อได้ง่าย
- หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ " ดีที่สุด "
- ต้านทานแอนติบอดีโควิดที่มีในปัจจุบัน
- อาจ ทำให้แสดงอาการของโรคได้มากขึ้น
- อาการป่วยรุนแรงขึ้น ยังไม่แน่ชัด
- มีแนวโน้มกลายพันธุ์ง่ายขึ้น
อาการเฉพาะ " เยื่อบุตาอักเสบ,ตาแดง "
พบผู้ป่วยใน " ไทย " จำนวน 8 ราย จาก 3,000 รายทั่วโลก
หลังผ่านเทศกาลสงกรานต์ มีความเสี่ยงที่จะมีการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้คนจำนวนมากเดินทางไปตามพื้นที่ต่างๆทั้งภายในและภายนอกประเทศ และยังมีการจัดกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีผู้คนรวมตัวกันหนาแน่น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่อาจเป็นตัวช่วยในการแพร่กระจายของเชื้อได้ง่ายขึ้น
*หมายเหตุ : ข้อมูลคุณสมบัติสายพันธุ์ จากหัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ม.มหิดล
ขอบคุณข้อมูลจาก บีบีซีไทย